สาระน่ารู้
สุนัข อาการ เหมือน อะไรติดคอ มาดูวิธีช่วยเหลือที่ถูกต้องกัน ว่าทำอย่างไร
ก.ค.
สุนัขส่วนใหญ่มักเคี้ยวทุกอย่างที่อยู่รอบตัว เช่น กระดูก ของเล่น รองเท้า ถุงเท้า เป็นต้น แต่คุณจะทำอย่างไร เมื่อมีบางสิ่งไปติดคอสุนัขของคุณ และเริ่มมีอการที่จะสำลัก วิธีการช่วยที่ถูกต้องเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะเราไม่สามารถรอการช่วยจากสัตวแพทย์ได้ เนื่องจากสุนัขอาจจะหายใจไม่ออก
อาการของสุนัขเมื่อมีอาการสำลัก
ถ้าสุนัขของคุณเริ่มหายใจไม่ออก เขามักจะมีอาการวิตกกังวล สุนัขอาจจะเอาฝ่าเท้าไปบริเวณปาก เมื่ออะไรติดอยู่ในนั้น แต่อาจจะไม่ได้หมายถึงเขากำลังสำลัก อีกอาการที่น่าสงสัยคือสุนัขไม่ตอบสนอง หรือไม่ได้สติ ในกรณีนี้มห้ตรวจดูว่าในคอ หรือปากมีวัตถุแปลกปลอม หรือไม่ อาการไอก็สามารถเป็นอีกอาการของการสำลักได้เช่นกัน แต่มักใช้ในการบอกการระคายเคืองของหลอดลม เช่น โรค Kennel cough
สาเหตุหลัก
ของชิ้นเล็กๆ เกือบทั้งหมด มักทำให้เกิดอาการสำลัก หรือติดคอได้ ของส่วนใหญ่ที่พบคือลูกบอลยางแข็งๆ หรือของเล่นที่เอาไว้เคี้ยว หรือแท่งอย่างอื่นที่ถูกกลืน เนื่องจากความชุ่มชื้น
การดูแลโดยทันทีเมื่อเกิดเหตุ
ให้ระมัดระวังทุกครั้งในการรับมือกับการสำลักของสุนัข แม้สัตว์ที่ปกติสงบ ก็จะหวาดกลัวได้ เมื่อพวกเขาไม่สามารถหายใจได้ ป้องกันตัวของคุณเองด้วยการจับบังคับสุนัข แต่ไม่ควรใช้ที่ครอบปาก
- ใช้มือทั้งสองข้างในการอ้าปากสุนัข โดยมือข้างหนึ่งอยู่กรามด้านบนอีข้างอยู่กรมด้านล่าง
- จับกรามเอาไว้ จากนั้นกดบริเวณลิ้มฝีปากที่อยู่เหนือฟัน เพื่อที่สุนัขจะได้ไม่สามารถกัดคุณได้ หมาทุกตัวกัดคุณได้ ฉะนั้นทำด้วยความระมัดระวัง
- มองเข้าไปในปาก และนำสิ่งแปลกปลอมออกด้วยนิ้วของคุณ กวาดนิ้วของคุณไปให้ทั่ว เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่ หากมีกระดูกติดอยู่ลึกลงไปในลำคอ ไม่ควรพยายยามเอาออกมา ให้รีบนำไปพบสัตวแพทย์
- หากไม่สามารถเอาวัตถุออกได้ด้วยนิ้วของคุณ แต่มองเห็นวัตถุให้รีบพาไปพบสัตวแพทย์
หากหมาของคุณยังคงสำลัก และคุณเองก็ไม่เห็นอะไรในปากสุนัข หรือสุนัขเริ่มหมดสติให้คุณทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
การทำ Heimlich maneuver (วิธีช่วยตอนสำลัก) สำหรับสุนัขพันธุ์เล็ก
- ค่อยๆ วางสุนัขของคุณให้นอนง่าย จากนั้นกดบริเวณท้องที่อยู่ใต้กระดูกซี่โครง
การทำ Heimlich maneuver (วิธีช่วยตอนสำลัก) สำหรับสุนัขพันธุ์ใหญ่
- ไม่ต้องพยายามยกสุนัขตัวใหญ่ เพราะจะยิ่งทำให้เกิดการบาดเจ็บมากขึ้น ให้ทำด้วยวิธี Heimlich maneuver
- ถ้าสุนัขยืนอยู่ให้เอาแขนโอบรอบพุงของเขา แล้วออกแรงกดขึ้น บริเวณใต้ซี่โครง จากนั้นวางสุนัขเหมือนเดิม
- ถ้าสนุขนอนอยู่ให้วางมือข้างหนึ่งไว้ที่หลัง เพื่อช่วยพยุง ส่วนมืออีกข้างบีบบริเวณท้อง ไล่ขึ้นมาตามแนวสันหลัง
- ดูภายในปากของสุนัข แล้วเอาสิ่งแปลกปลอมออกมา
วัตถุบางอันอยู่ลึกลงไป คุณอาจจะต้องใช้นิ้วชี้ในการเกี่ยวมันออกมา หากสุนัขต้องการเครื่องช่วยหายใจ หรือการกู้ชีพ ให้รีบพาไปพบสัตวแพทย์
การดูแลของสัตวแพทย์
เป็นเรื่องที่เกิดได้อยู่แล้ว เมื่อมีของติดอยู่ที่คอ จะทำให้เกิดความเสียหายได้ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับระยะที่สุนัขขาดออกซิเจน และความเสียหายของลำคอ สุนัขอาจจะต้องรักษาในโรงพยาบาลหลังจากการช่วยเหลือฉุกเฉินแล้ว ในบางกรณีการส่องกล้องเข้าไปในคอ เพื่อดู และเอาสิ่งแปลกปลอมออก อาจต้องทำเพื่อประเมินความเสีหาย สัตวแพทย์อาจแนะนำให้ทำ X-ray เพื่อเช็คว่าเอาวัตถุแปลกปลอมออกไปหมดแล้ว ในบางครั้งวัตถุแปลกปลอม เช่น กระดูก ไปติดอยู่ที่หลอดอาหาร และสามารถทำให้เกิดการหายใจลำบาก หรืออาการคล้ายการสำลัก
การป้องกัน
วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกัน คือการดูแลสุนัขของคุณเหมือนกับดูแลเด็กเล็กๆ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ก็ตาม ที่จะหยุดไม่ให้เขาเอาสิ่งของเข้าปาก ดังนั้นคุณควรจะคอยอยู่ดูเขาขณะที่กำลังเคี้ยว ควรหลีกเลี่ยงของเล่นที่มีความชุ่มชื้นสูง หรือที่มีลักษณะแท่ง หรืออาหารชิ้นใหญ่ๆ ไม่ควรให้กระดูก T-bone แกสุนัขของคุณ ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าสามารถทำให้สุนัขสำลักได้
ไม่ควรให้กระดูกที่มีขนาดพอดีกับปากของสุนัข กระดูกที่ผ่านการทำอาหารมาแล้วนั้นอันตราย เพราะสามารงอ และถูกกลืนเข้าไปติดได้ พยายามเอาของเล่น หรือกระดูกที่พอดีกับปากของสุนัขออกไปให้ไกล พวกเขานั้นชอบที่จะพยายามเอาของที่พอดีกับปากของเขาเข้าปาก